ปัจจัยกำหนดรายได้โฆษณา
- ความยาวของวิดีโอ ยิ่งวิดีโอมีความยาวเท่าไหร่ ก็สามารถแสดงโฆษณาได้จำนวนครั้งมากขึ้นเท่านั้น (วิดีโอสั้นๆ ความยาวไม่กี่นาที จะแสดงโฆษณาได้แค่ก่อนและหลังวิดีโอ) วิดีโอที่ยาวมากๆ รายได้ก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว เดี๋ยวนี้ยูทูปเปอร์เลยนิยมทำคลิปให้มีความยาวอย่างน้อย 10 นาทีครับ
- ประเทศที่เข้าชม ถ้าช่องคุณมีคนดูอยู่ในประเทศมีกำลังซื้ออย่างอเมริกา ก็จะได้เรทโฆษณาสูงขึ้น
- เนื้อหาของวิดีโอ วิดีโอที่มีเนื้อหาเฉพาะทาง เช่น การเงิน การลงทุน หารายได้ การศึกษา มันจะได้อัตราโฆษณามากกว่า วิดีโอจิปาถะทั่วไป เช่น คลิปแกล้งคน
- อายุของผู้เข้าชม สมมุติถ้าผู้ชมส่วนใหญ่ของช่องคุณอยู่ในวัยทำงาน ก็จะมีเรทโฆษณามากกว่าช่องที่มีผู้ชมเป็นเด็กหรือวัยรุ่น เนื่องจากวัยทำงานมีกำลังซื้อมากกว่านั่นเองครับ
อยากเปิดการสร้างรายได้เงื่อนไขเป็นยังไง?
ก่อนที่คุณจะสามารถสร้างรายได้จากโฆษณา ช่องของคุณต้องผ่านเงื่อนไขสองข้อนี้
- มีผู้ติดตาม (subscribers) อย่างน้อย 1,000 คน
- ในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา (หรือน้อยกว่า) ช่องคุณต้องมี “จำนวนชั่วโมง (watch hours)” ที่คนดูวิดีโอคุณรวมกัน ไม่น้อยกว่า 4,000 ชั่วโมง
รับเงินจากยูทูปยังไง
- คุณต้องรอให้รายได้จากค่าโฆษณาช่องคุณถึงเกณฑ์ที่ยูทูปกำหนด
- จากนั้นยูทูปจะส่งจดหมายที่มีรหัส PIN ไปยังที่อยู่คุณ (อาจจะต้องรอเป็นสัปดาห์เลยกว่าจะได้จดหมาย)
- คุณต้องเอารหัส PIN ไปใส่ในบัญชี Adsense ของคุณ
พอคุณยืนยันที่อยู่เสร็จแล้ว คุณก็สามารถเริ่มรับเงินจากยูทูปได้เลย โดยในเมนู Payments ของ Adsense ให้คุณกรอกรายละเอียดบัญชีธนาคารคุณ ทีนี้ในแต่ละเดือน (ประมาณวันที่ 21) ถ้ายอดถึงเกณฑ์ที่คุณกำหนด (ขั้นต่ำคือ $100) ยูทูปก็จะโอนเงินเข้าบัญชีคุณให้โดยอัตโนมัติ (ถ้ายอดไม่ถึงก็ยกไปรอบต่อไป)
รายได้ YouTuber ต่อ ‘viewer’?
จากข้อมูลของ YouTubers ในหลายประเทศโดยรวมแล้วสรุปได้ว่า ถ้าเราคำนวนแค่รายได้ต่อ ‘คนดู’ จะสร้างรายได้เฉลี่ย 0.18 ดอลลาร์สหรัฐ/1 viewer (เกือบ 6 บาท) ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ YouTube จะจ่ายเงินให้กับ YouTuber เช่น
- จำนวนยอดวิวของวิดีโอ
- จำนวนคลิกโฆษณา
- คุณภาพของโฆษณา
- Adblockers
- ความยาวของวิดีโอ
แล้วทุกๆ 1,000 viewers สร้างรายได้เท่าไหร่?
พอคิดเป็นภาพรวมเฉลี่ยสำหรับทุกๆ 1,000 คนที่ดู ‘โฆษณา’ YouTuber จะได้รับรายได้จาก YouTube ประมาณ 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 540 บาท) ส่วนรายได้จากคอนเท็นต์ของตัวเอง ในทุกๆ 1,000 viewers จะได้รับเงินประมาณ 3-5 ดอลลาร์สหรัฐฯ (สูงสุด 150 บาท) ซึ่งจำนวนดังกล่าว Forbes ได้ประเมินรายได้อยู่ที่ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหมือนกัน
รายได้ YouTuber ต่อ ‘subscriber’
สำหรับจำนวน subscriber อาจไม่ได้ช่วยสร้างรายได้ให้กับเราแบบชัดเจนเหมือนกับยอด viewer แต่จำนวนผู้ติดตามที่มากขึ้น จะช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็นของคอนเท็นต์มากขึ้น และทำให้ฐานคนดูเยอะขึ้นตาม จากความคิดเห็นของ YouTuber หลายๆ คน พูดตรงกันว่า คนที่กด subscriber จะมีแนวโน้มคลิก ‘Liked – Share – Comment’ วิดีโอมากกว่าเดิม
รายได้ YouTuber ต่อ ‘1 วิดีโอ’
Forbes ได้พูดว่า ปัจจัยที่สร้างรายได้ต่อวิดีโอมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน เช่น จำนวนดูสะสม (ทุกครั้ง) และ จำนวนโฆษณาที่แสดงตลอดทั้งวิดีโอ (มีกี่ตัว) เป็นต้น
ดังนั้นถ้าคิดรวมๆ แล้ว ถ้าเรามีคนดูวิดีโอถึง 1 ล้านคนดู จะสามารถทำเม็ดเงินได้ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 150,240 บาท) อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินตรงนี้ต้องไปรวมกับคุณภาพของโฆษณาอีก หรือจะเป็นอัตราการคลิกโฆษณาที่โชว์ในวิดีโอ และยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
ข้อดีของการหาเงินจากยูทูป
ข้อดีแรกของการทำยูทูป คือมันเป็น passive income แบบ 100% ถ้ายอดรายได้คุณถึงเกณฑ์เมื่อไหร่ เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณโดยอัตโนมัติ
อย่างช่องผมไม่ได้อัพวิดีโอเป็นปีแล้ว แต่มันก็ยังสร้างรายได้ให้ผมทุกเดือน มากบ้างน้อยบ้าง โดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลย