เมื่อพูดถึง Content Marketing หลายๆ คนคงจะเข้าใจความหมายอยู่แล้วว่าคือการตลาดโดยใช้เนื้อหา แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Content Marketing หรือรู้จักแค่ผิวเผิน ทางทีม Content ก็ได้เตรียมบทความดีๆ จาก Forbes นิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินในสหรัฐอเมริกา มาให้ทุกคนได้อ่าน เพื่อให้ทราบถึง ความหมาย ความสำคัญของ Content Marketing ที่มีต่อองค์กร
โดย Forbes ได้อ้างถึง Content Marketing Institute (สถาบันการตลาดเนื้อหา) ที่เป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาทางการตลาดออนไลน์ ว่าเขาได้พูดถึงการตลาดโดยใช้เนื้อหาว่า “การตลาดเนื้อหาเป็นเทคนิคการตลาดในการสร้างเนื้อหา ที่มีค่า ให้เกี่ยวข้อง สอดคล้องกันเพื่อทำการเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณค่าออกไป โดยเนื้อจะต้องดึงดูดความสนใจของผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย”
5 ตัวอย่างการตลาดที่ใช้เนื้อหา
1. infographics (อินโฟกราฟิก) คือภาพหรือกราฟิกที่ทำให้คุณเห็นถึงข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นสถิติ ความรู้ ตัวเลข ที่พูดง่ายๆ ว่าเป็นการสรุปข้อมูลผ่านภาพหรือกราฟิกนั้นเอง
2. Webpages เว็บหรือเว็บเพจส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะนำการตลาดเนื้อหาไปใช้ เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้ามามีส่วนร่วมบนเว็บไซต์ได้มากขึ้น
3. Podcasts (พ็อดคาสท์) คือการเผยแพร่ในลักษณะเสียงอย่างเรื่องเล่า การสนทนา ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ที่ผู้คนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดไฟล์ได้ การดาวน์โหลดไฟล์พ็อดคาสท์จะนำไปสู่กระบวนการอื่นๆ ในการทำตลาดไม่ว่าจะเป็นการขายหนังสือ การลงทะเบียนเพื่อขอหลักสูตร ตลอดจนการขอให้ไปเป็นวิทยากร
4. Videos ถึงแม้ว่าจะเป็นวิดีโอคุณก็สามารถสร้างเนื้อหาสำหรับการตลาดลงไปได้ อย่างการสร้างช่องบน YouTube เพื่อใช้ในการโปรโมทร้านค้าของตัวเองผ่านวิดีโอ ในรูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ
5. Books นักการตลาดส่วนใหญ่ที่ขายหนังสือไม่ได้สร้างหนังสือขึ้นมาเพื่อรายได้ แต่พวกเขาขายหนังสือเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำตลาด แน่นอนว่าการตลาดโดยใช้เนื้อหารูปแบบนี้ยังใช้งานได้ดี เพราะมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มหาความรู้จากการอ่าน
ทำไมถึงต้องใช้ Content Marketing
ก่อนที่คุณจะหาคำตอบว่าทำไมถึงต้องใช้คอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งในการทำตลาด คุณควรทำความเข้าใจก่อนว่าเหตุใดการทำตลาดแบบเนื้อหาจึงสำคัญต่อการทำธุรกิจมากนัก ด้วยการวิเคราะห์วงจรการซื้อสินค้าของผู้บริโภคเสียก่อน
- ตระหนัก ก่อนที่ผู้บริโภคจะมีความตระหนักคิด สิ่งแรกที่ผู้บริโภครู้สึกคือความต้องการ เมื่อเข้าสู่กระบวนการตระหนักผู้บริโภคจะต้องการข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องการมากขึ้น
- วิเคราะห์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการข้อมูลที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์สินค้าเหล่านั้น เพื่อเปรียบเทียบ ประเมินว่าเขาต้องการสิ่งนี้จริงๆ หรือไม่
- พิจารณา เมื่อผู้บริโภคมีข้อมูลที่สามารถใช้ในการเปรียบเทียบว่าสินค้าชนิดนี้จะตรงกับความต้องการเขาหรือไม่ ขั้นตอนต่อมาคือการพิจารณาว่าสินค้า มีความแตกต่างจากผู้ขายรายอื่นๆ แค่ไหน เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองจะรับสินค้าที่มีคุณภาพดีในราคาที่ยุติธรรม
- ตัดสินใจซื้อ เมื่อผู้บริโภคผ่านทุกขั้นตอนมาแล้วสิ่งที่เขาจะทำต่อมาก็คือการตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ
ในการทำโฆษณาแบบดั้งเดิมจะสามารถใช้ได้ถึงวงจรการซื้อในขั้นที่สองเท่านั้น แต่สำหรับการใช้การตลาดเนื้อหาจะครอบคลุมสามขั้นตอนในวงจรการซื้อสินค้า ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่แรกเลยคือการสร้างความตระหนักในการแก้ไขปัญหา และให้ความรู้แก่ผู้บริโภค เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เขาไม่เคยพิจารณามาก่อน
ผลตอบแทนหรือผลลัพธ์ในการทำตลาดแบบเนื้อหาอาจจะต้องใช้เวลามากสักหน่อยแต่รับรองว่าความสำเร็จที่คุณจะได้รับนั้นคุ้มค่าแก่การรออย่างแน่นอน เพราะการตลาดแบบเนื้อหาจะสนับสนุนช่องทางการตลาดแบบดิจิทัลในรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO ผ่านเนื้อหาทางการตลาดที่ทำให้เกิดการเชื่อมโยงขาเข้า หรือการเชื่อมโยงขาออกที่เป็นธรรมชาติ อ่านมาถึงตรงนี้คุณพอจะทราบแล้วหรือยังว่าทำไมถึงต้องใช้คอนเทนต์ มาร์เก็ตติ้งในการทำตลาด
จะเริ่มต้นได้อย่างไร?
มีหลายบริษัทที่ให้บริการด้านการตลาด โดยใช้การตลาดเนื้อหาควบคู่ไปกับการใช้ SEO หรือ PR หากคุณไม่มีเวลา หรือความสามารถในการจัดการเนื้อหาในส่วนนี้ การว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ หรือบริษัทที่สามารถทำงานในส่วนนี้ได้จัดการแทนก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณในตอนนี้ แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการดำเนินงานในส่วนนี้เองการเริ่มต้นสร้างบล็อกก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน
เนื้อหาทางการตลาดที่ยอดเยี่ยม
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่เคยอ่านเนื้อหาทางการตลาด หรือเรื่องราวที่คุณกำลังสนใจเพราะว่าคุณจะต้องนำไปปฏิบัติตามหรือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาในส่วนงานต่างๆ แต่เนื้อหาเหล่านั้นก็ไม่ได้ส่งผลดีหรือไม่ได้ผล เมื่อคุณได้นำไปใช้งานจริง หากจะถามว่าทำไมคำตอบง่ายๆ เลยก็เพราะว่า เนื้อหาที่คุณได้อ่านไปเป็นเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพบางครั้งเนื้อหาทางการตลาดที่ยอดเยี่ยมก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง หรือการรับชม ตัวอย่างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย และยอดขายที่พุ่งกระฉูดที่คุณอาจเคยได้เห็นผ่านตามาแล้วอย่าง The Lego Movie ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ถึง 470 ล้านเหรียญจากทั่วโลกหลังจากถูกเผยแพร่ออกไป (2014)
ถึงแม้ว่า Lego จะเป็นตัวอย่างเนื้อหาทางการตลาดที่ใช้เงินลงทุนสูงไปสักหน่อย แต่คุณก็สามารถใช้เงินลงทุนในการสร้างเนื้อหาทางการตลาดที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบอื่นๆ ให้กับลูกค้าของคุณอ่านได้เช่นกัน
ความลับของการตลาดเนื้อหาอันดับ 1
การเพิ่มมูลค่า นี้แหละคือเคล็ดลับที่ไม่ใช่ความลับอะไรเลยในการสร้างเนื้อหาทางการตลาดที่มีคุณค่า หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณจะเพิ่มมูลค่าให้กับการตลาดที่ใช้เนื้อหาของคุณอย่างไร คุณลองถามลูกค้าปัจจุบันของคุณดูว่าเนื้อหาประเภทใดที่คุณสามารถลงมือทำได้ และเป็นประโยชน์กับพวกเขาเมื่อพวกเขากำลังมองหาผลิตภัณฑ์ของคุณ
ทางทีมงาน Content เชื่อว่าหลายๆ คนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ จะเข้าใจการทำการตลาดโดยใช้เนื้อหามากยิ่งขึ้น และได้รับแนวทาง แรงบันดาลใจในการสร้างเนื้อหาทางการตลาดไปไม่น้อยในวันนี้
ขอบคุณบทความจาก https://www.am2bmarketing.co.th/